News&Update

ในประเทศญี่ปุ่น  แต่ละร้านเอสเต้ซาลอนจะมีผู้เชี่ยวชาญผิวที่เรียกว่า Therapist (เทอราปิส) หรือเข้าใจง่ายๆว่า #นักบําบัด + #เทรนเนอร์ของผิว มีหน้าที่สำคัญที่จะช่วยปลุกชีวิตผิวใหม่ของเรา  - คอยช่วยฝึกฝนและบํารุงผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมายกกระชับ  - ช่วยนวดกระตุ้นผิวที่อ่อนล้า ให้กลับมามีสุขภาพผิวที่แข็งแรง  - เป็นคนคอยกําหนดตารางเวลาการออกกําลังกายของผิว  - กําหนดตารางเวลาและความถี่ในการเข้ารับการบริการเหมาะสมให้กับลูกค้า

เทอราปิสใช้อะไรเป็นเกณฑ์การตัดสินใจในการแนะนำคอร์สให้กับลูกค้า? Q : เทอราปิสใช้อะไรเป็นเกณฑ์การตัดสินใจในการแนะนำคอร์สให้กับลูกค้า? A : เทอราปิสมีหน้าที่ดูสภาพผิว และให้คำแนะนำการดูแลฟื้นฟูสภาพผิวตามความเหมาะสม เทอราปิสจะเป็นคนจัดเรียงลำดับความสำคัญของปัญหาผิวที่จำเป็นต้องดูแล ไล่ตั้งแต่ เร่งด่วนมาก เร่งด่วนปานกลาง และเร่งด่วนน้อย เช่น ลูกค้า A มีใบหน้าหมองคล้ำ เป็นสิว และผิวขาดความชุ่มชื้น มีริ้วรอยประปราย

คำว่า “เหมาะกับสภาพผิว” นั้น มีวิธีการดูง่ายๆคือ ผิวของคนเราแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ๆ เช่น ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม ผิวแพ้ง่าย เป็นต้น เทอราปิสมีหน้าที่ดูว่า ลูกค้ามีสภาพผิวเป็นอย่างไร ควบคู่ไปกับการคำนึงถึงปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อผิว  เช่น  สภาพอากาศในช่วงฤดูร้อน กับสภาพอากาศในช่วงฤดูฝน ก็ส่งผลที่แตกต่างกันไปกับแต่ละสภาพผิว หรือปัญหาจากความเครียด นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ  และปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลร้ายต่อผิวเทอราปิสมีหน้าที่คิดวิเคราะห์ว่า ทรีทเม้นท์ไหนจะเหมาะกับลูกค้ามากที่สุด ซึ่งทรีทเม้นท์ทุกคอร์สนั้น ได้รับการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ และผ่านการทดสอบจากหลากหลายสภาพผิว และช่วงอายุ  เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

วันนี้ก็ขอมาพูดถึงเรื่อง เอสเต้ ซาลอนช่วยดูแลผิวคุณได้อย่างไรนะคะ คุณสามารถเห็นความสามารถในการผลัดเซลล์ผิวของคนเราได้ชัดเจนขึ้นตามตารางด้านด้านล่างค่ะ

เอสเต้ ซาลอนช่วยดูแลผิวคุณได้อย่างไร มิฮานะเชื่อว่า จุดเริ่มต้นของสุขภาพผิวที่ดี คือการได้รับการบำรุงดูแลผิวหน้าโดยการนวด และทำทรีทเมนท์อย่างเป็นประจำ แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรล่ะ ว่าคุณควรทำทรีทเมนท์บ่อยแค่ไหน ต่อวัน ต่อสัปดาห์ หรือต่อเดือน เรามีคำตอบค่ะ คุณสามารถคำนวนช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทำทรีทเม้นท์ได้อย่างง่ายๆคือ การทำความเข้าใจใน “Facial Life Cycle” หรือ “วงจรชีวิตของผิวหน้า” ถ้าคุณสามารถเข้าใจวิธีวงจรการผลัดเซลล์ผิวแล้ว คุณก็จะรู้ได้ว่าช่วงเวลาไหน และในความถี่เท่าไรที่จะเหมาะสมกับการทำทรีทเมนท์ให้ผิวหน้า เพราะการทำทรีทเมนท์บ่อยเกินไปใช่จะดีนะคะ การทำทรีทเมนท์บ่อยหรือถี่จนเกินไปเป็น “การทำร้ายผิวหน้าทางอ้อม” เพราะมันคือการ “Over Treatment” ทำให้ผิวเราแพ้ง่าย และบอบบาง พูดง่ายๆ คือ การออกกำลังกายผิวมากเกินไป แทนที่จะสวยใส ผิวเราจะโทรมแทนค่ะ :(

ก่อนจะไปดูว่าควรบำรุงผิวอย่างไร เอสเต้ซาลอนช่วยอะไรเราได้บ้าง มิฮานะขอแนะนำให้มาทำความรู้จักโครงสร้างผิว (Basic Skin Structure) ของเรากันก่อนนะคะ เพื่อทำความเข้าใจว่าสกินแคร์ที่เราทาทุกวันนั้น บำรุงล้ำลึกได้มากสุดถึงชั้นไหน และทำไมเราต้องการการดูแลเพิ่มเติมจากเอสเต้ซาลอน

เชื่อว่าหลายๆคนยังคงสงสัยว่า เอสเต้ซาลอนคืออะไร มิฮานะมีการให้บริการยังไง เพราะฉะนั้นเรามาหาคำตอบกันค่ะ ว่า Aesthetic Salon (エステティックサロン) หรือเอสเต้ ซาลอน ซึ่งเป็นที่นิยมของสาวๆญี่ปุ่นกันมาเป็นเวลานานว่าแท้จริงแล้วคืออะไร

วารสารทางการแพทย์ The Lancet ได้สำรวจเรื่อง “ประเทศที่ไม่ชอบออกกำลังกาย” พบว่า ชาวญี่ปุ่นออกกำลังในระดับที่น้อยกว่าชาติตะวันตกมาก โดยชาวญี่ปุ่นกว่า 60% ออกกำลัง น้อยกว่ามาตรฐาน ในขณะที่ชาวอเมริกันเป็นกลุ่มที่ชอบออกกำลังกายมากที่สุดในโลก แต่เป็น เรื่องแปลกที่ชาวญี่ปุ่นที่อ้วนกลับมีน้อยกว่าชาวอเมริกัน เรามาดูกันค่ะ ว่าเพราะอะไร? . นักวิชาการได้บอกว่า การออกกำลังกายเป็นตัวช่วยสำคัญในการมีรูปร่างที่ดี แต่วิถีชีวิตที่ดีของ ชาวญี่ปุ่นต่างหาก ที่เป็นตัวช่วยทำให้ไม่อ้วน เพราะคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเดินมาก และใช้ จักรยานเป็นยานพาหนะหลักรองจากรถยนต์ ซึ่งนั่นก็เป็นเหมือนกับการออกกำลังกายไปในตัว อีกทั้งอาหารการกินของที่นี่ จะเป็นอาหารที่มีไขมันน้อย และยังเป็นอาหารที่มีคุณภาพ ที่ไม่ ผ่านการปรุงที่มากขั้นตอน ไม่แต่งสี กลิ่น หรือรส เหมือนอาหารชาติอื่นๆ นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไม "คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ถึงหุ่นดีค่ะ" . และอีกหนึ่งเคล็ดลับความหุ่นดีของสาวๆญี่ปุ่น ก็คือการเข้าสถานเสริมความงาม (Aesthetic Salon) เพื่อดูแลรูปร่าง กระชับสัดส่วน และกำจัดเซลลูไลท์ เป็นวิธีผสมผสานการนวดโดยใช้ มือ และการใช้เทคโนโลยีร่วมกัน ซึ่งเป็นวิธีการดูแลรูปร่างแบบ Non-Invasive Lipolysis Treatment นั่นก็คือการไม่ผ่าตัด ฉีด หรือเจาะชั้นผิวหนัง นั่นเองค่ะ . ใครอยากสวยใส และหุ่นเป๊ะแบบสาวญี่ปุ่น ต้องลองสัมผัสประสบการณ์ใหม่จากเอสเต้ซา ลอน สัญชาติญี่ปุ่น ศาสตร์ความงาม ที่เน้นการปรับสมดุลลึกจาก

การนวดหน้าเป็นการคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวได้อย่างตรงจุดที่สุด และยังเป็นการผ่อนคลายผิว จากสภาวะที่เหนื่อยล้าอีกด้วย และนี่คือ 4 ข้อดีของการนวดหน้า • ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอกให้หลุดร่วงไป ให้เซลล์ผิวหนังใหม่แข็งแรงมาแทนที่ หลังจากทำผิวหน้าจึงดูกระจ่างใสขึ้นอย่างสัมผัสได้ • ปรับความสมดุลระบบประสาท กระตุ้นต่อมน้ำเหลืองเดรนของเสีย ลดอาการปวด บวม แล้ว ยังสร้างระบบการเผาผลาญ ให้ผิวเปล่งปลั่ง    • ช่วยให้ผิวพรรณได้รับสารอาหาร และครีมบำรุงได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม     • ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ช่วยลดความเครียดระหว่างการนวด ยิ่งถ้าคุณนวดหน้าอย่างสม่ำเสมอแล้วละก็ รับรองว่านอกจากจะหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นแล้ว ผิว หน้าของคุณจะกลับมาทำงานได้สมบูรณ์แบบเหมือนตอนเป็นวัยรุ่นเลยค่ะ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้